“ตั๊ก-ศิริพร” ฟันธงอีก 2 ปีลาวงการ อยากทำบุญเต็มที่

เป็นคุณแม่สุดสตรองอีกหนึ่งคนของวงการ สำหรับ “ตั๊ก-ศิริพร อยู่ยอด” ล่าสุดมาอัดรายการ “ศึก 12 ราศี” ที่โพลีพลัส เลยคว้าตัวมาอัพเดตเรื่องราวชีวิตและข่าวคราวที่มีเยอะมากๆ ทั้งเรื่องของลูกชายสุดเลิฟ “น้องภู-ภูสิษฐ์ เอี่ยมสุข” และ ข่าวเตรียมลาวงการ! งานนี้ยังมีเรื่องราวลับๆ ที่เจ้าตัวเปิดหมดเปลือกเป็นครั้งแรกอีกด้วย

“ช่วงนี้น้องภูเรียนหนักมาก สงสารเค้าเลยอะ ตอนนี้ขึ้น ม.3 พี่ว่าเค้าน่าจะชอบเกี่ยวกับพวกเทคโนโลยี อย่าง สตีฟ จ็อบส์ หรือ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก อย่างคอมพิวเตอร์เค้าก็ซ่อมเองได้ เค้าเรียนรู้เอง เรื่องแชนเนลในยูทูปก็เคยคิด แต่ตอนนี้พี่ตั๊กกับพี่นุ้ยยังไม่ว่าง อยากทำรายการของพวกเรา 3 คน พ่อแม่ลูก ทำอาหารก็ได้ อะไรก็ได้ อยากทำ LIVE อะไรแบบนี้ แต่ไม่มีเวลา น้องภูเคยมีคลิปทำอาหาร แต่อันนั้นนานแล้วยังไม่ได้ทำเพิ่ม พี่อยากทำนะ แบบเป็นจัดรายการกันพ่อแม่ลูก ทำอาหารก็น่ารักดี แต่ว่ายังยุ่งอยู่ เวลานอนยังไม่มีเลย ส่วนเรื่องการแสดงก็เคยถามน้องภู เค้าก็บอกยังไงก็ได้ ถ้าถามว่าเค้าชอบที่สุดมั้ย พี่ว่าคงไม่ใช่ที่สุด ตอนนี้อยากให้เค้าโฟกัสเรื่องเรียนเป็นหลัก ถ้าจะทำงานในวงการบันเทิง พี่อยากให้เค้าโตกว่านี้อีกหน่อยนึง ตอนนี้ยังเด็กไป แล้วก็เรียนหนักด้วย กลับบ้านไปก็คุยกับลูก หรือไม่ก็ไลน์คุยกัน หรือถ้ากลับบ้านไปก็ต้องกอดกันหอมกัน อย่างน้อยในหนึ่งวันก็ต้องมีสักหน่อย”

คาดหวังอะไรกับลูกชายคนนี้บ้าง?
“พี่ตามใจลูก อยากเรียนสายไหน พี่ไม่บังคับ แล้วแต่ตัวเค้าเลย แต่ขออยากให้เค้าเรียนสูงๆ เพราะสมัยนี้มันต้องสู้กันด้วยตรงนี้ พี่บอกลูกว่า จะทำอะไรก็ได้เลยนะ แม่ขอแค่ว่าภูเรียนเก่งๆ เรียนสูงๆ แล้วก็จบมามีหน้าที่การงานที่ดี ขอให้เป็นคนเก่งแม่ขอแค่นี้ ขอให้ภูเป็นคนดี คนเก่ง แค่นี้แม่พอใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเลี้ยงพ่อแม่หรอกนะ”

งานเยอะแทบไม่มีเวลาพัก แต่กลับมีข่าวช็อก อีก 2 ปีจะออกจากวงการ?
“พี่นุ้ยเค้าหาว่าพี่พูดเล่น แต่พี่รู้สึกว่า พี่เบื่อจริงๆ แล้วพี่เหนื่อย ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ลำบากมามากแล้ว พี่อยากอยู่เฉยๆ นิ่งๆ บ้าง เวลาทำก็ทำเต็มที่ แล้วก็พักไปเลย แล้วอย่าลืมนะ อย่างพี่ไม่ใช่พระเอกนางเอก เราก็แค่เป็นสีสันในวงการ ก็อาจจะไปได้เรื่อยๆ เพียงแต่ว่าช่วงนี้รู้สึกว่างานการมันโอเคเนอะ เรามีแรงทำไหวก็ทำไป เดือนนึง บางทีก็ได้หยุด 1-2 วัน พอมีวันหยุดสักวันนึงโคตรดีใจเลย ถ้าเบรกงานตรงนี้แล้วอาจจะทำอะไรก็ได้ที่เป็น การกุศล ช่วยเหลือสังคม พี่อยากทำตรงนั้นบ้าง ช่วยชาวบ้านอะไรแบบนี้ พี่อาจจะทำอะไรเป็นการช่วยคน อย่างรายการที่พี่ตั๊กทำกับฮาย ไป 2 คน ค่าตัวเหลือน้อยมากเลยนะ คือไปทำด้วยใจ ถ้าให้ทำรายการอย่างนั้น ทำได้ เพราะเป็นการช่วยคน วันก่อนไปอัดรายการ ไปเป็นกรรมการนะ ไปนั่งตัดสินชาวบ้านร้องเพลง แต่ก็ควักเงินส่วนตัว พี่ลิง, พี่ฮาย, พี่เอ-ไชยา ก็ใจดี ค่าตัวไม่ค่อยเหลือกันหรอก แต่มันมีความสุขจริงๆ ตรงนั้นเราได้บุญจริงๆ นะ มันสุขใจจริงๆ เป็นเพราะว่าเราลำบากมาก่อน เราคิดว่าเราลำบากแล้วนะ แต่พอมาอยู่ตรงนี้เราได้เห็นชีวิต มีคนลำบากกว่าเราอีก แบบโอโห้ ลำบากขนาดนี้เลย บางครั้งเรามีความรู้สึกว่ายิ่งกว่าละครอีกนะ เรื่องจริงหรือเปล่าเนี่ย ตรงนั้นพี่ก็ไม่เสียดายเงินเลย มันช่วยแล้วได้ตรงนั้นเลย”

มีความคิดจะทำธุรกิจอย่างดาราคนอื่นมั้ย?
“พี่เป็นคนทำธุรกิจไม่เป็น พี่ไม่เคยทำเลย ยังคิดว่าดาราคนอื่นที่เค้าทำธุรกิจไปด้วยเค้าเก่ง แต่พี่ทำไม่เป็น ไม่ได้มีหัวทางนั้น เรื่องค้าขายเรื่องธุรกิจไม่ได้ครึ่งของแม่เลย แม่พี่เก่ง แม่พี่เป็นคนไฮเปอร์ แต่พี่เป็นคนนิ่งๆ ชอบอยู่คนเดียว รายได้ก็อาจจะมาจากพี่นุ้ย ส่วนพี่ก็อาจจะทำอะไรก็ได้กอกแกกๆ ตอนนี้ไปอีก 2 ปี พี่ก็คงทำงานแล้วเก็บเงินไว้ คิดว่าอีก 2 ปี คงไม่เปลี่ยนใจ ไม่อยากเป็นคนสับปลับ พูดไปแล้วก็ต้องเป็นคำพูด เดี๋ยวจะหาว่าทำเป็นพูดสร้างกระแส สร้างข่าว มันจะดูไม่ดี คงไม่ได้มีแฟนๆ มาเรียกร้อง เพราะเราไม่ใช่คนดังขนาดนั้น”

เฮ้อ..พูดเลยว่า “ใจหาย” อยากให้เวลาเดินช้าๆ เวลามองหน้าจอจะได้มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากเธอคนนี้ “ตั๊ก-ศิริพร อยู่ยอด” ไปอีกนานๆ